This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

การเขียนบทความ

ต่อจากบทความที่แล้ว เมื่อเราสร้างบล็อกและเห็นหน้าตามบล็อกของเราแล้ว ก็ต้องมาทำความรู้จักกับวิธีเขียนบทความ เครื่องมือในการเขียนบทความ ผมคิดว่าเราๆทุกคนสามารถเขียนได้สบายเมื่อเห็นหน้าตาเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนบทความ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า.
การเขียนบทความ
1. ให้เราเข้าไปที่ Blogger >> เลือกบล็อกที่เราจะเขียนบทความ >> จากนั้นเลือก “บทความ”
เขียนบทความ
ก็จะเข้ามาที่หน้าเขียนบทความของบล็อกเกอร์ ดังรูปข้างล่าง
Clip_8
เราจะเห็นว่าเครื่องมือการเขียนบล็อกนั้นคล้ายกับโปรแกรม Microsoft Word (โปรแกรมพิมพ์งาน) โปรแกรมสามัญประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานี่เอง
write-content-4
มาดูกันว่าเครื่องมือในการเขียนบทความของบล็อกเกอร์มีอะไรบ้าง
เครื่องมือ
ชื่อ/การใช้งาน
write-content-5 ปุ่ม เขียน/HTML คือ ปุ่มสลับการเขียนบทความแบบปกติ (พิมพ์ทั่วไป) HTML คือการเขียนแบบใช้ภาษา HTML (ใช้โค้ด)
write-content-6 ปุ่ม เลิกทำ/ทำซ้ำ
write-content-7 ปุ่ม แบบอักษร ใช้เลือกแบบอักษรที่เราจะใช้เขียนบทความ มีให้เลือกเพิ่ม 7 แบบอักษร ดังรูป
write-content-8 ปุ่ม ขนาดอักษร ใช้กำหนดขนาดของอักษร
write-content-9 ปุ่ม รูปแบบ ใช้กำหนดหัวข้อหลัก หัวข้อย่อยของบทความ (
write-content-10 ปุ่ม ตัวหนา ใช้กำหนดข้อความให้เป็นตัวหนา
write-content-11 ปุ่ม ตัวเอียง ใช้กำหนดข้อความให้เป็นตัวเอียง
write-content-12 ปุ่ม ขีดเส้นใต้ ใช้ขีดเส้นใต้ข้อความ
write-content-13 ปุ่ม ขีดกลาง ใช้ขีดเส้นกลางข้อความ
write-content-14 ปุ่ม สีอักษร ใช้กำหนดสีของข้อความบทความ
write-content-15 ปุ่ม สีพื้นหลังข้อความ ใช้กำหนดสีพื้นหลังของข้อความในบทความ
 write-content-16 ปุ่ม ลิงค์ คือปุ่มใช้กำหนดข้อความให้เป็นลิงค์นำไปสู่หน้าเว็บอื่น จะมีลักษณะการใช้งานตัวอย่างดังรูป

ข้อความที่ปรากฏ : ข้อความที่จะทำลิงค์
เชื่อมโยงไปยัง
ที่อยู่ทางเว็บ : ใส่ URL ที่จะให้ลิงค์ไป
write-content-17 แทรกรูปภาพ/แทรกวิดีโอ เมื่อคลิกแล้วจะมีหน้าต่างดังรูปขึ้นมาให้เราเลือกรูปภาพ/วิดีโอที่ต้องการใส่ในบทความ
write-content-18
write-content-19 ปุ่ม แทรกการข้าม คือการแบ่งบทความ
write-content-20 ปุ่ม จัดเรียง คือการกำหนดบทความว่าจะให้มีรูปแบบการเรียบแบบไหน มีให้เลือก 4 แบบ คือ
- จัดเรียงชิดซ้าย
- จัดกึ่งกลาง
- จัดเรียงชิดขวา
- จัดชิดขอบ
write-content-21 ปุ่ม รายการตัวเลข/รายการลำดับหัวข้อย่อย
ใช้กำหนดลำดับหัวข้อ
write-content-22 ปุ่ม อ้างคำพูด (อัญประกาศ)
write-content-23 ปุ่ม ลบการจัดรูปแบบ
write-content-24 ปุ่ม ตรวจการสะกด
write-content-25 ปุ่ม ให้คำนิยาม / แปลภาษา
write-content-26 ป้ายกำกับ ใช้ ในการกำหนดหมวดหมู่ของบทความ
2. หลังจากรู้จักเครื่องมือในการเขียนบทความของ Blogger แล้ว ก็เริ่มเขียนบทความได้
2.1 ตั้งชื่อบทความ
write-content-2
2.2 เขียนบทความ จัดวางรูปแบบ ตามใจคุณ
write-content-1
2.3 เมื่อเขียนบทความเสร็จสมบูรณ์ แต่ละบทความจะต้องกำหนด “ป้ายกำกับ” คือการกำหนดหมวดหมู่ของบทความนั่นเอง
2.4 เมื่อกำหนดหมวดหมู่บทความแล้ว ก็คลิก “เผยแพร่” เพื่อส่งบทความไปที่บล็อกของเราได้เลย
3. หากอยากเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของบล็อกคุณ อยากตกแต่งบล็อกให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น ให้คุณเขียนบทความ 3-5 บทความ ให้ใส่รูปภาพ และข้อความ จากนั้นกำหนด “ป้ายกำกับ” ทั้ง 5 บทความให้เหมือนกัน เช่น testblog
pic10
เมื่อคุณโพสบทความของคุณแล้ว ให้เข้าไปดูบล็อกของคุณว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร จากนั้นก็ไปทำตาม บทที่ 4 ได้เลย (การเปลี่ยนเทมเพลทหรือเปลี่ยนหน้าตาบล็อก)
บทที่ 4 บทความต่อไปผมจะพาคุณเปลี่ยน Themplate ของบล็อกเกอร์ (การเปลี่ยนหน้าตาบล็อกนั่นเอง)

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ขั้นตอนการสมัคร Blogger

Blogger

ต่อจากบทความที่แล้ว ขั้นตอนการสมัคร Gmail ในบทความนี้ผมจะกล่าวถึงการสมัครใช้บริการ Blogger ซึ่งในปัจจุบันนี้ทำได้ง่ายมากๆ สำหรับกรณีที่คุณยังไม่มี Gmail สามารถคลิกที่ “สมัครใช้งาน” มุมบนขวามือได้เลย และจะเห็นว่าขั้นตอนการสมัครนั้นเป็นแบบฟอร์มเดียวกับการสมัคร Gmail นั่นเอง ซึ่งผมจะไม่กล่าวถึงการสมัครจีเมล์อีก 

วิธีการ/ขั้นตอนการสมัคร blogger

เมื่อเรามีบัญชี Gmail แล้วก็มาเริ่มกันเลย

1. เริ่มจากเข้าสู่เว็บไซต์โดยพิมพ์ www.blogger.com จากนั้นกรอก
     - บัญชีอีเมล์ของ Gmail ที่สมัครไว้ตามบทความที่แล้ว 
     - รหัสผ่าน
   จากนั้นคลิก ลงชื่อเข้าใช้งาน

register blogger 1

2. จะเข้ามาสู่หน้าตาหลักของ Blogger จะเห็นว่าตอนนี้เรายังไม่มีบล็อก  ให้เราคลิกที่ “บล็อกใหม่” เพื่อสร้างบล็อก
register blogger 2

 

3. เมื่อคลิก “บล็อกใหม่” แล้ว จะมีหน้าต่างโชว์ขึ้นมาตามรูปด้านล่างนี้
register blogger 3
     ในช่องว่าง
          -  หัวข้อ  ให้กรอกชื่อบล็อกของเรา กรอกเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้
          -  ที่อยู่  ให้ตั้งชื่อเว็บบล็อก url ของเรา หากชื่อที่เราตั้งสามารถใช้งานได้ เราจะเห็นเครื่องหมายถูกท้ายชื่อเว็บดังรูป
          -  แม่แบบ  สำหรับแม่แบบผมแนะนำให้เลือก Simple
จากนั้นคลิกที่ “สร้างบล็อก” เป็นการจบขั้นตอนการสร้างบล็อกแล้วครับ.

4. เมื่อเราสร้างบล็อกแล้ว Blogger จะพาเรายังหน้าเว็บดังรูปด้านล่าง
register blogger ภ

ในหน้าเว็บนี้ เราจะเห็นรายชื่อเว็บบล็อกของเราที่กรอกไว้ในช่อง หัวข้อ ของขั้นตอนที่ 3 (ของผมก็คือ Example Blogger) เราสามารถเข้าไปจัดการเว็บบล็อกของเราได้เลยโดยคลิกที่ชื่อเว็บบล็อก (ตัวอย่างชื่อบล็อกของผม Example Blogger) หรือถ้าอยากจะเข้าไปดูหน้าตาเว็บบล็อกที่เราสร้างขึ้นมาว่ามีหน้าตายังไง ก็คลิกที่ “ดูบล็อก” ก็จะเห็นบล็อกเรามีหน้าตาดังรูปด้านล่าง
register blogger 5

แล้วเราก็สร้างเว็บบล็อกของเราเสร็จเป็นที่เรียบร้อย. บทความต่อไปผมจะแนะนำวิธีการเขียนบทความ Blogger นะครับผม

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ขั้นตอนการสมัคร gmail



Gmail_logo
ก่อนที่เราสร้างเริ่มต้นสร้างบล็อก/สมัครบล็อกเกอร์ได้นั้น เราจะต้องมีบัญชีกูเกิ้ลแอคเค้าท์เสียก่อน (บัญชี/Email: Gmail) หากคุณมีอีเมล์ของ gmail อยู่แล้วก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย.



วิธีการ/ขั้นตอนการสมัคร Gmail

1. เข้าไปที่ http://mail.google.com  จากนั้นคลิก สร้างบัญชี
gmail.avi_000090733
2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
gmail.avi_000207666
* ชื่อ : กรอกชื่อ-นามสกุล (แนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษ
* เลือกชื่อผู้ใช้ : กรอกชื่ออีเมล์ที่เราต้องการ (ภาษาอังกฤษ)
3. พิมพ์อักษรให้ตรงกับกับคำที่กำหนดมาให้ แล้ว ติ๊กเครื่องหมายถูก ตรง ฉันยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายส่วนบุคคลของ Google
จากนั้นคลิก >> ขั้นตอนถัดไป
gmail.avi_000238866
4. จากขั้นตอนที่สาม  จะเข้ามายังหน้าดังรูปด้านล่าง
    คลิก >> ขั้นตอนถัดไป  อีกครั้ง
 gmail.avi_000335800
5. มาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการสมัคร Gmail
    คลิก >> เข้าสู่ Gmail เป็นการจบขั้นตอนการสมัครครับ. ตามรูปด้านล่าง
 gmail.avi_000346800

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

PR คืออะไร Backlinks คืออะไร Alexa Rank คืออะไร

บทความนี้เรามารู้จักกับคำศัพท์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำ SEO สำหรับศัพท์ต่อไปนี้ เราใช้สำหรับวิเคราะค่าต่าง ๆ ดังนั้นจึ้งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับ SEO

Google Pagerank คือ อะไร ?

Google Pagerank หรือ Google PR คือ ค่าลำดับคะแนนที่ Google ประเมินให้กับคุณภาพของเนื้อหา ในหน้าเว็บเพจแต่ละหน้า ที่ปรากฎ อยู่ในเว็บไซต์ โดยคะแนนที่ปรากฎจะอยู่ในช่วงระหว่าง 0 ถึง 10 ยิ่งตัวเลขยิ่งสูงยิ่งดี PageRank สูง นั่นหมายความว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีโอกาสได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าเว็บไซต์ที่มี PageRank ต่ำกว่า สำหรับหน้าเว็บเพจที่ไม่มีค่า Pagerank ระบบจะแจ้งเป็น “No PageRank information available”

Alexa Rank คือ อะไร?

Alexa Rank คือ อันดับเว็บทั่วโลกที่อยู่บนเว็บของ alexa 

ตัวเลขแสดง อันดับของการเข้าชมเว็บไซต์ ในค่าของ Alexa Rank นี้ ได้มาจากการคำนวณ ตาม Traffic ที่มาจาก UIP ที่เป็นผู้ใช้อยู่ทั่วไปนั่นเอง (โดยคิดคำนวณในระยะเวลา 3 เดือนต่อครั้ง) และจะเห็นได้ว่า Alexa Rank ของเว็บไซต์ที่มีค่าน้อย จะดีกว่า Alexa Rank ของเว็บไซต์ที่มีค่ามาก

Backlinks คือ อะไร? (เสริม)

Backlinks คือ Links ที่เชื่อมโยงเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรา บางครั้งเรียกว่า Incoming Links หรือ Link Popularity ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ยิ่งส่งผลดีต่อเว็บเราเท่านั้น

การตรวจเช็คค่า Google Pagerank (PR)

 

บทความนี้เราจะมาดูวิธี การเช็คค่า Google Pagerank (PR) ของเว็บไซต์แต่ล่ะเว็บ โดยวิธีการเช็คก็ง่ายแสนง่าย สามารถทำได้ดังนี้

1. ให้เพื่อน ๆ เข้าไปที่ URL : www.checkpr.org 

จากนั้นจะเห็น ฟอร์มการตรวจสอบ PR  หากต้องการตรวจสอบ PR ของเว็บไหน ก็มห้ใส่ URL ของเว็บที่ต้องการลงไปแล้วคลิกที่ปุ่ม Rank 

2. ระบบจะทำการตรวสอบค่า PR ของเว็บที่เราใส่ URL ไป ต้องรอสักครู่ จากนั้นหากระบบทำงานเสร็จก็จะแสดงผลการเช็ตได้

ซึ่ง ค่าต่าง ๆ ที่ได้มาก็สามารถตีความได้ตามบทความนี้ค่ะ

PR คืออะไร Backlinks คืออะไร Alexa Rank คืออะไร

ค่าต่าง ๆ นี้เราตรวจสอบได้ตลอดเวลา หากทาง Google มีการปรับค่า เราก็จะเห็นข้อมูลในส่วนนี้เปลี่ยนไป ซึ่งจะดีหรือไม่ก็ดูตามค่า ตัวเลข มีประโยชน์ในเรื่องการเช็คความก้าวหน้าและตกต่ำของเว็บได้ค่ะ เราจะได้ขยันมากขึ้นหากว่าอันดับ PR น้อยลง

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Google PageRank คืออะไร ?

1. Google PageRank คืออะไร ?
Google PageRank คือวิธีการวัดความสำคัญของเว็บเพจนับล้านๆเว็บเพจบนอินเตอร์เน็ท โดยมีตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 10 ยิ่งตัวเลขยิ่งสูง PageRank ก็ยิ่งสูง นั่นหมายความว่าเว็บไซต์นั้นๆมีโอกาสได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าเว็บไซ ต์ที่มี PageRank ต่ำกว่า โดยเราสามารถทราบค่า PR ของเว็บไซต์เราได้ โดย download และ install google toolbar (http://toolbar.google.com) หลังจากนั้นคุณจะสามารถดูคะแนน PR ของคุณที่จัดโดย google ได้ดังรูป
ถ้า ไม่ต้องการ install google toolbar สามารถ check ค่า PageRank ได้ที่เว็บไซต์ www.pagerank.net

** หัวใจ ของ Page Rank คือ แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ ให้มาก และถ้าเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บเรา และ เป็นเว็บที่มีค่า PR สูง ยิ่งทำให้เว็บไซต์เรามีค่า PR สูงขึ้นด้วย

2. ค่า PR นั่นแสดงค่าทุกๆหน้าของเว็บไซต์เราใช่หรือไม่ ?
ค่า PR ของแต่ละเว็บเพจ ในเว็บไซต์หนึ่งๆ นั้นจะมีค่าแตกต่างกันไป ทั้งนี้ โดยมากโฮมเพจ มักมีค่า PR สูงกว่าหน้าอื่นๆ แต่ก็ไม่เสมอไป

3. Google คำนวณค่า PR อย่างไร ?
ค่า PR ถูกคำนวณ โดยจำนวนลิงก์ของเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณ (Inbound Link) ทั้งนี้คำนึงถึงคุณภาพ (คุณภาพของลิงก์หมายถึง เว็บเพจที่ลิงก์มาหาคุณมีความเกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาใน เว็บไซต์ของคุณ ) และค่า PR ของเว็บไซต์ที่ลิงก์มายังเว็บไซต์คุณด้วย ยิ่งเว็บไซต์ที่ลิงก์มาหาคุณมี PR สูงๆ ค่า PR ของเว็บคุณก็มีแนวโน้มที่จะสูงตามไปด้วย ค่า PageRank นั้นใช้วิธีการเดียวกับระบบการโหวต หนึ่งลิงก์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของคุณ ยิ่งมีค่า PR สูงเท่าใด Google ยิ่งเห็นความสำคัญของเว็บเพจนั้นๆมากยิ่งขึ้น และหากมีลิงก์มาจำนวนมากลิงก์มายังเว็บไซต์คุณ ค่า PR เว็บคุณก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

4. ทำอย่างไรถึงจะได้ค่า PR เพิ่มขึ้น ?
ค่า PR นั้นจะเพิ่มขึ้นได้ในแต่ละขั้นจาก 1 ไป 2 , จาก 2 ไป 3,... , จาก 9 ไป 10 นั้น มีกฏเกณฑ์ที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน แต่ไม่ได้เป็นลักษณะเช่น คุณมีเว็บที่เชื่อมโยงลิงก์มาหาเว็บไซต์ คุณจาก 50 inbound link เป็น 100 inbound link (เพิ่มขึ้น 50 หน่วย) เว็บเพจนั้นๆอาจมีค่า PR เพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น PR 3 แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ค่า PR 3 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น PR 4 โดย ที่คุณมี inbound link เพิ่มจาก 100 เป็น 150 (เพิ่มขึ้น 50 หน่วย) เสมอไป อาจต้องมี inbound link เพิ่มขึ้นถึง 200 หน่วย ค่า PR ถึงจะเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นในค่า PR ในแต่ละขั้นนั้น เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความรู้ ความพยายามเป็นอย่างมาก

5. การเพิ่มหน้าเว็บเพจที่มีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ส่งผลให้ค่า PR เพิ่มขึ้นหรือไม่ ?
คำตอบคือไม่ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วคือ หากคุณสามารถทำให้มีเว็บลิงก์มายังเว็บคุณได้มากขึ้นเท่าไหร่ PR ของเว็บคุณก็จะสูงมากขึ้นตามลำดับ แต่ทั้งนี้หากคุณนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในเว็บเพจนั้นๆ นั่นหมายความว่า คุณอาจได้รับการขอแลกลิงก์จากเว็บมาสเตอร์คนอื่นๆมายังเว็บไซต์คุณก็เป็นได้ ซึ่งเท่ากับเพิ่มจำนวนลิงก์ให้มากขึ้นในที่สุด

6. เนื้อหาของเว็บเพจที่ลิงก์มายังเว็บไซต์คุณ มีผลอย่างไรต่อค่า PR ?
หาก เว็บเพจที่เชื่อมโยงลิงก์มายังเว็บคุณ มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับเว็บไซต์คุณมากเท่าใด Google จะพิจารณาให้ค่า PR ของเว็บคุณสูงยิ่งขึ้น

7. หากเว็บเพจที่เชื่อมโยงลิงก์มายังเว็บไซต์เรามี ค่า PR ต่ำ จะส่งผลกระทบต่อค่า PR ของเว็บไซต์เราหรือไม่ ?
การที่มีเว็บ เพจเชื่อมโยงมาหาเว็บคุณจำนวนมากขึ้นนั้น โดยที่เว็บเพจนั้นๆมีค่า PR ระหว่าง 0-3 จะไม่ส่งผลกระทบต่อค่า PR ของเว็บคุณในทันที แต่เหมือนกับสะสมคะแนนไปเรื่อยๆ อย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว ยิ่งเว็บเพจที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์คุณมีเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์ กับเว็บไซต์คุณมากเท่าใด ยังส่งผลดีมากกว่า เว็บเพจที่มีเนื้อหาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์คุณเลยแต่มีค่า PR สูง และเชื่อมโยงลิงก์มาหาเว็บคุณ อย่าลืมว่า PageRank เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการจัดลำดับความสำคัญของเว็บเพจหนึ่งๆเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกด้วย

8. เว็บที่มีค่า PR ต่ำๆ จะทำให้ค่า PR ของเว็บไซต์เรา ลดลงหรือไม่ ?
คำตอบคือ ไม่อย่างแน่นอน การแลกลิงก์กับเว็บไซต์ที่มีค่า PR ต่ำ (อาจเป็นเว็บที่เพิ่งเปิดตัว เป็นต้น) แต่มีเนื้อหาที่เกี่ยวพันกับเว็บไซต์คุณอาจทำให้ PR ของเว็บไซต์ของทั้งสองแห่งเพิ่มขึ้นพร้อมๆกันก็เป็นไปได้ แต่อย่าเข้าร่วมกับโปรแกรมแลกเปลี่ยนลิงก์ใดๆที่เป็นการโกงเสิร์ชเอนจิ้น ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์คุณถูกถอนออกจากฐานข้อมูลของเสิร์ชเอนจิ้นในทีสุด

9. ค่า PR เราตกลงได้หรือไม่ ?
ค่า PageRank สามารถลดลงได้ หากเว็บไซต์คุณมีจำนวนลิงก์ที่เชื่อมโยงมาหาเว็บไซต์คุณน้อยลง ซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นจากเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงมาหาคุณมีค่า PR ลดลงก็เป็นได้

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

claim token

DSEV9JK6P2JM

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

convert-code-ads

Add to Google